สถาบันเทคโนโลยีจิตรลดา
Search
Close this search box.
Search
Close this search box.

ประกาศความเป็นส่วนตัว (Privacy-Notice)

มีผลตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายน 2565

สถาบันเทคโนโลยีจิตรลดา (สถาบัน) ได้จัดทำประกาศความเป็นส่วนตัวฉบับนี้ขึ้น เพื่อแจ้งให้ผู้ใช้บริการทราบถึงวิธีการเก็บรวบรวม ใช้ เปิดเผย และการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้งาน ทั้งข้อมูลส่วนบุคคลที่อยู่ในรูปแบบกระดาษ และข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์

สถาบันเคารพ และให้ความสำคัญกับสิทธิในข้อมูลส่วนบุคคล และการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล และตระหนักว่า ผู้ใช้บริการของสถาบันด้วยวิธีการอิเล็กทรอนิกส์หรือวิธีอื่นใด ย่อมมีประสงค์ที่จะได้รับความมั่นคงปลอดภัยในข้อมูลส่วนบุคคลจากการใช้บริการ

สถาบันจะเก็บรวบรวมและนำข้อมูลส่วนบุคคลที่สามารถระบุตัวบุคคลนั้นได้ไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อม ซึ่งเป็นข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความสมบูรณ์ ถูกต้อง เป็นปัจจุบัน และมีคุณภาพ ไปใช้หรือเปิดเผยตามวัตถุประสงค์การดำเนินงานของสถาบันเท่านั้น และจะดำเนินมาตรการที่เข้มงวดในการรักษาความมั่นคงปลอดภัย ตลอดจนการป้องกันมิให้มีการนำข้อมูลส่วนบุคคลไปใช้โดยมิได้รับอนุญาต

สถาบันขอให้ผู้ใช้งานรับทราบและแนะนำให้ทำความเข้าใจประกาศนี้ก่อนที่จะให้ข้อมูลส่วนบุคคลแก่สถาบัน หากท่านมีข้อสงสัย หรือต้องการสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับประกาศนี้ โปรดติดต่อสถาบันตามรายละเอียดข้อมูลเกี่ยวกับสถาบันที่ปรากฎท้ายประกาศนี้

“สถาบัน” หมายความว่า สถาบันเทคโนโลยีจิตรลดา

  • “ข้อมูลส่วนบุคคล” หมายความว่า ข้อมูลเกี่ยวกับบุคคลซึ่งทำให้สามารถระบุตัวบุคคลนั้นได้ ไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อม แต่ไม่รวมถึงข้อมูลของผู้ถึงแก่กรรมโดยเฉพาะ อาทิ ชื่อ-สกุล ที่อยู่ หมายเลขโทรศัพท์ หมายเลขบัตรประชาชน เป็นต้น
  • “ผู้ปฏิบัติงาน” หมายความว่า ครู อาจารย์ พนักงาน และลูกจ้างของสถาบัน
  • “ผู้ใช้บริการ” ได้แก่
  • “นักเรียน” หมายความว่า ผู้ซึ่งศึกษาอยู่ในสถาบันระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพ
  • “นักศึกษา” หมายความว่า ผู้ซึ่งศึกษาอยู่ในสถาบันระดับอุดมศึกษา
  • “ผู้เข้าอบรม” หมายความว่า ผู้ที่เข้าร่วมฝึกอบรมในหลักสูตรที่ดำเนินการโดยสถาบัน หรือเครือข่ายของสถาบัน ทั้งที่เป็นหลักสูตรฝึกอบรมในชั้นเรียน และแบบออนไลน์
  • “วิทยากร” หมายความว่า ผู้ที่ทำหน้าที่ถ่ายทอดความรู้และประสบการณ์ให้แก่ผู้เข้ารับการอบรมในหลักสูตรต่าง ๆ ที่จัดโดยสถาบัน หรือเครือข่ายสถาบัน
  • “ผู้ใช้งานเว็บไซต์” หมายความว่า ผู้ที่เข้าใช้งานเว็บไซต์ของสถาบันเทคโนโลยีจิตรลดา www.cdti.ac.th
  1. )  สถาบันเคารพ และให้ความสำคัญกับสิทธิในข้อมูลส่วนบุคคล และการคุ้มครองข้อมูล ส่วนบุคคล และตระหนักว่าผู้ใช้บริการของสถาบันด้วยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ หรือวิธีอื่นใดย่อมมีความประสงค์ที่จะได้รับความมั่นคงปลอดภัยในข้อมูลส่วนบุคคลจากการใช้บริการ
  2. )  สถาบันจะนำข้อมูลส่วนบุคคลที่ได้รับมาซึ่งสามารถบ่งบอกตัวบุคคลได้ และเป็นข้อมูล ส่วนบุคคลที่มีความสมบูรณ์ ถูกต้อง เป็นปัจจุบัน และมีคุณภาพ ไปใช้ตามวัตถุประสงค์การดำเนินงานของสถาบันเท่านั้น และจะดำเนินมาตรการที่เข้มงวดในการรักษาความมั่นคงปลอดภัย ตลอดจนการ ป้องกันมิให้มีการนำข้อมูลส่วนบุคคลไปใช้โดยมิได้รับอนุญาต

สถาบันมีการรวบรวม จัดเก็บ ใช้ และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล เพื่อประโยชน์การดำเนินการตามวัตถุประสงค์ของสถาบันที่กำหนดไว้ในพระราชบัญญัติสถาบันเทคโนโลยีจิตรลดา พ.ศ. 2561 ในการส่งเสริมวิชาการและวิชาชีพชั้นสูง มุ่งเน้นให้การศึกษาด้านทักษะวิชาชีพและเทคโนโลยีบนฐานของวิทยาศาสตร์และวิชาอื่นที่เกี่ยวข้อง เพื่อสร้างความชำนาญในการปฏิบัติ ทำการสอน วิจัย ริเริ่ม ถ่ายทอด ฝึกอบรม พัฒนาบุคลากร พัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรม โดยให้ผู้เข้ารับการศึกษามีโอกาสศึกาด้านวิชาชีพเฉพาะทางจนถึงระดับอุดมศึกษา ให้บริการทางวิชาการแก่สังคม ทะนุบำรุงศิลปวัฒนธรรม ปลูกฝังให้นักเรียนและนักศึกษาเป็นพลเมืองดี มีจิตอาสา และมีวินัย

  1. ) ในการรวบรวม และเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคล สถาบันจะใช้วิธีการที่สอดคล้องตามที่กฎหมายกำหนดไว้และเป็นธรรม กับทั้งจะจัดเก็บข้อมูลเท่าที่จำเป็นในการให้บริการตามอำนาจหน้าที่ และวัตถุประสงค์ของสถาบันและตามที่กฎหมายกำหนดเท่านั้น
  2. ) สถาบันจะขอความยินยอมจากเจ้าของข้อมูลก่อนหรือในขณะที่เก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล เฉพาะบริการหรือกิจกรรมที่ต้องขอความยินยอมจากผู้ใช้บริการ เว้นแต่กรณีมีความจำเป็นตามที่กฎหมายกำหนดพร้อมทั้งแจ้งวัตถุประสงค์ของการเก็บรวบรวมข้อมูลดังกล่าวและรายละเอียดที่เกี่ยวข้อง โดยสถาบันจะรักษาข้อมูลเหล่านั้นไว้เป็นความลับ
  3. ) สถาบันจะไม่จัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคลซึ่งเกี่ยวกับเชื้อชาติ เผ่าพันธุ์ ความคิดเห็นทางการเมือง ความเชื่อในลัทธิ ศาสนาหรือปรัชญา พฤติกรรมทางเพศ ประวัติอาชญากรรม ข้อมูลสุขภาพ ความพิการ ข้อมูลสหภาพแรงงาน ข้อมูลพันธุกรรม ข้อมูลชีวภาพ หรือข้อมูลอื่นใด ซึ่งกระทบต่อ เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลในทำนองเดียวกัน โดยไม่ได้รับความยินยอมเป็นหนังสือ หรือด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์จากเจ้าของข้อมูลเว้นแต่เป็นการจำเป็นตามที่กฎหมายกำหนด
  4. ) สถาบันจะไม่กระทำการใด ๆ แตกต่างจากที่ระบุในวัตถุประสงค์ของการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูล เว้นแต่
    – ได้แจ้งวัตถุประสงค์ใหม่ให้ผู้ใช้บริการทราบและได้รับความยินยอม
    – เป็นกรณีที่กฎหมายกำหนด
  5. )  สถาบันอาจรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลเข้าด้วยกันกับข้อมูลส่วนบุคคลที่ได้รับมาจากแหล่งอื่น เว้นแต่เป็นข้อยกเว้นตามที่กฎหมายกำหนด หรือการจำเป็นตามที่กฎหมายกำหนด
  6. )  กรณีที่ต้องขอความยินยอม หากเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลเป็นผู้เยาว์ สถาบันจะไม่เก็บรวบรวมข้อมูลจากผู้เยาว์จนกว่าจะได้รับความยินยอมจากผู้ปกครอง เว้นแต่เป็นกรณีที่มีฐานทางกฎหมายกำหนดให้สถาบันสามารถดำเนินการได้โดยไม่ต้องได้รับความยินยอม

       1) สถาบันจะไม่ใช้หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลที่มีการจัดเก็บรวบรวมไว้ เว้นแต่ได้รับความยินยอมจากเจ้าของข้อมูล หรือเป็นข้อยกเว้นตามที่กฎหมายกำหนด หรือการจำเป็นตามที่กฎหมายกำหนด และจะต้องเป็นการใช้ตามวัตถุประสงค์ที่ได้แจ้งไว้เท่านั้น

       2) สถาบันจะกำกับดูแลให้บุคลากรของสถาบัน องค์กรเครือข่ายและผู้ที่เกี่ยวข้อง มิให้เปิดเผย แสดง หรือทำให้ปรากฏในลักษณะอื่นใดซึ่งข้อมูลส่วนบุคคล โดยไม่เป็นไปตามข้อ 6.1 เว้นแต่มีความจำเป็นตามที่กฎหมายกำหนด

       3) ในบางกรณี สถาบันอาจให้บุคคลหรือหน่วยงานอื่นเข้าถึงหรือใช้ข้อมูลส่วนบุคคลเท่าที่จำเป็น และเพื่อให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์และอำนาจหน้าที่ของสถาบัน โดยเป็นไปตามกฎหมาย หรือวัตถุประสงค์ที่ได้แจ้งกับเจ้าของข้อมูลตามข้อ 5.2 แล้ว อีกทั้งต้องดำเนินการตามมาตรา 28 แห่งพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 หากเป็นกรณีที่ต้องด้วยบทบัญญัติดังกล่าวด้วย

ผู้ใช้บริการที่ประสงค์จะทราบข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตนเอง สามารถมีคำร้องมายังสถาบัน (แบบฟอร์มคำร้อง) เพื่อขอให้แจ้งถึงความมีอยู่ และรายละเอียดข้อมูลดังกล่าว โดยกรอกแบบคำร้องเพื่อการจัดการข้อมูลส่วนบุคคลเจ้าของข้อมูลมีสิทธิตรวจดูความมีอยู่ ลักษณะของข้อมูลส่วนบุคคล วัตถุประสงค์ของการนำข้อมูลไปใช้ และ มีสิทธิ ดังต่อไปนี้

  • ขอสำเนา หรือขอสำเนารับรองถูกต้องเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคลของตน
  • ขอแก้ไข หรือเปลี่ยนแปลงข้อมูลส่วนบุคคลของตนให้ถูกต้องสมบูรณ์
  • ขอระงับการใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลที่เกี่ยวกับตน
  • ขอให้ดำเนินการลบ หรือทำลายข้อมูลส่วนบุคคลที่เกี่ยวกับตน
  • ขอให้เปิดเผยถึงการได้มาซึ่งข้อมูลส่วนบุคคลที่เกี่ยวกับตนในกรณีที่เป็นข้อมูล ซึ่งผู้ใช้บริการไม่ได้ให้ความยินยอมในการรวบรวมหรือจัดเก็บ


อย่างไรก็ตามสถาบันอาจปฏิเสธสิทธิได้ ในกรณีที่กฎหมายกำหนดหรือในกรณีที่ข้อมูลส่วนบุคคลถูกทำให้ไม่ปรากฏชื่อหรือสิ่งบอกลักษณะอันสามารถระบุตัวเจ้าของข้อมูลได้อีก

สถาบันอาจปรับปรุงนโยบายส่วนบุคคลเพื่อให้สอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยี ข้อกฎหมาย การให้บริการ การดำเนินงานของสถาบัน หรือข้อเสนอแนะและความคิดเห็นจากผู้ที่เกี่ยวข้อง โดยสถาบันจะประกาศแจ้งการเปลี่ยนแปลงดังกล่าวหรือแจ้งให้ผู้ใช้บริการทราบโดยตรงก่อนที่จะเริ่มปฏิบัติตามการเปลี่ยนแปลงนั้น

สถาบันจะเปิดเผยนโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล และหากมีการปรับปรุงแก้ไข สถาบันจะดำเนินการเผยแพร่ผ่านทางเว็บไซต์ของสถาบัน ( www.cdti.ac.th ) และเอกสารปิดประกาศ ณ ที่ทำการของสถาบัน

ประกาศนี้เป็นการกำหนดหลักการและหลักปฏิบัติกลาง (main notice) โดยสถาบันมีการดำเนินกิจกรรมและการให้บริการที่หลากหลาย ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมายของสถาบัน โดยแต่ละกิจกรรมและบริการเหล่านั้นจำเป็นต้องมีการเก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผยข้อมูลของท่าน โดยลิงก์กิจกรรมและบริการต่าง ๆ ด้านล่างนี้ จะอธิบายและให้รายละเอียดกับท่านเกี่ยวกับการเก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผยข้อมูลของท่านที่แต่ละกิจกรรมหรือแต่ละบริการมีการดำเนินการ

ผู้สมัครงาน

หัวข้อรายละเอียด
1. ข้อมูลส่วนบุคคลที่สถาบันเก็บรวบรวมและใช้
  •    ชื่อ นามสกุล
  •    รูปถ่าย
  •    ข้อมูลส่วนตัว เช่น วันเดือนปีเกิด อายุ เพศ สถานการสมรส สัญชาติ
  •    หมายเลขบัตรประชาชน และข้อมูลที่ปรากฏบนบัตรประชาชน (ปิดบังข้อมูลศาสนา)
  •    ข้อมูลการติดต่อ เช่น ที่อยู่ หมายเลขโทรศัพท์ อีเมล เป็นต้น
  •    ข้อมูลเกี่ยวกับสมาชิกครอบครัว หรือผู้อยู่ในความดูแลของผู้สมัครงาน เช่น ข้อมูลเกี่ยวกับคู่สมรส บิดา มารดา ทั้งนี้ ก่อนการให้ข้อมูลกับสถาบัน ให้ผู้สมัครแจ้งประกาศความเป็นส่วนตัวนี้ให้บุคคลดังกล่าวทราบด้วย
  •    ข้อมูลผู้ติดต่อสำรอง
  •    สถานภาพทางการทหาร
  •    สำเนาเอกสารที่สามารถใช้เพื่อระบุตัวตนของผู้สมัครงาน สำเนาบัตรประชาชน สำเนาทะเบียนบ้าน สำเนาทะเบียนสมรส เอกสารอื่น ๆ ที่ออกให้โดยหน่วยงานรัฐ
  •    ข้อมูลการศึกษา เช่น ความสามารถ ระดับการศึกษา วุฒิการศึกษา และสถาบันการศึกษา ประวัติการศึกษา ประวัติการฝึกอบรม ผลการศึกา ผลการทดสอบ คุณสมบัติด้านวิชาชีพ เป็นต้น
  •    ข้อมูลการทำงาน เช่น ตำแหน่ง หน่วยงาน ประวัติการทำงานในอดีต รายละเอียดนายจ้าง เงินเดือนและค่าตอบแทน ระยะเวลา สาเหตุการพ้นจากงาน เป็นต้น
  •    ข้อมูลเกี่ยวกับยานพาหนะ ใบอนุญาตขับขี่ ความสามารถในการขับขี่ยานพาหนะ (เฉพาะผู้สมัครงานในตำแหน่งที่จำเป็นต้องขับขี่ยานพาหนะ เช่น พนักงานขับรถ เป็นต้น)
  •    ข้อมูลประกอบการสรรหาและคัดเลือก เช่น ผลการทดสอบข้อเขียน ผลการสอบสัมภาษณ์ เป็นต้น
  •    ข้อมูลส่วนบุคคลอื่น ๆ ที่ท่านให้สถาบันโดยความสมัครใจ เพื่อเป็นเอกสารประกอบการยื่นข้อเสนอ เช่น Resume, Curriculum Vitae จดหมายสมัครงาน เป็นต้น
2. ข้อมูลส่วนบุคคลอ่อนไหวที่สถาบันเก็บรวบรวมและใช้

ไม่มีการจัดเก็บ

(หากสถาบันได้รับข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหวของผู้สมัครงานจากเอกสารที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการสรรหาและคัดเลือก เช่น สำเนาบัตรประชาชน Resume Curriculum Vitae โดยถือว่าผู้สมัครยินยอมให้สถาบันเก็บ รวบรวม ข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหวของผู้สมัคร ทั้งนี้สถาบันจะไม่นำข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความละเอียดอ่อนไปใช้ประโยชน์อื่น นอกเหนือจากที่แจ้งไว้ในประกาศฉบับนี้)

3.เหตุผลที่สถาบันจำเป็นต้องเก็บรวบรวมหรือใช้ข้อมูลส่วนบุคคลชุดนี้
  •    เพื่อการรับสมัครงานที่ดำเนินการโดยสถาบัน ซึ่งผู้สมัครงานติดต่อเข้ามาด้วยตนเอง หรือเป็นการประกาศรับสมัครภายในสำนักงาน
  •    เพื่อใช้ในการติดต่อสื่อสาร การนัดหมาย การสัมภาษณ์งาน
  •    เพื่อตรวจสอบคุณสมบัติของผู้สมัครงาน
  •    เพื่อดำเนินการสัมภาษณ์งาน วิเคราะห์ตรวจสอบประวัติการศึกษา ประสบการณ์ทำงานที่เกี่ยวข้อง
  •    เก็บรักษาไว้เพื่อพิจารณาตำแหน่งงานที่เปิดรับใหม่ในอนาคต สำหรับผู้สมัครงานที่ไม่ได้รับการบรรจุเป็นผู้ปฏิบัติงาน
  •    ดำเนินการบรรจุ ขึ้นทะเบียนเป็นผู้ปฏิบัติงาน จัดเตรียมบัตรประจำตัว เครื่องใช้ อุปกรณ์ คอมพิวเตอร์ โทรศัพท์มือถือ อีเมล username password ของระบบต่าง ๆ ของสถาบันเพื่อเตรียมความพร้อมในการปฏิบัติงาน
4.เหตุผลที่สถาบันได้รับการอนุญาตให้เก็บรวบรวมหรือใช้ข้อมูลส่วนบุคคลชุดนี้เป็นการจำเป็นในการปฏิบัติตามสัญญาหรือความจำเป็นในการดำเนินการเพื่อเข้าทำสัญญาที่ท่านเป็นคู่สัญญากับสำนักงาน ซึ่งเป็นไปตาม มาตรา 24 (3) แห่งพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562
5.หน่วยงานที่สถาบันอาจแบ่งปันหรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลที่เก็บรวบรวมไว้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจะมีการเปิดเผยเป็นการภายในสถาบัน และเฉพาะบุคคลที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการดำเนินงานเท่านั้น
6.ระยะเวลาในการจัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคลนี้จะถูกจัดเก็บเป็นระยะเวลา 1 ปี นับจากวันที่สถาบันได้รับข้อมูลส่วนบุคคลจากท่าน เว้นแต่ผู้สมัครงานได้รับการคัดเลือกให้บรรจุและแต่งตั้งเป็นบุคลากรของสถาบัน สถาบันจะดำเนินการโอนข้อมูลส่วนบุคคบของผู้สมัครงานไปยังฐานข้อมูลของสถาบัน
7.หน่วยงานต่างประเทศที่สถาบันส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลที่เก็บรวมรวมไว้ไปให้ไม่มี

 

การจัดซื้อจัดจ้าง

หัวข้อรายละเอียด
1. ข้อมูลส่วนบุคคลที่สถาบันเก็บรวบรวมและใช้
  •    ชื่อ นามสกุล
  •    หมายเลขบัตรประชาชน และข้อมูลที่ปรากฏบนบัตรประชาชน (จะปิดบังข้อมูลศาสนา)
  •    เลขที่หนังสือเดินทาง และข้อมูลที่ปรากฏบนหนังสือเดินทาง (เฉพาะกรณีที่ท่านใช้หนังสือเดินทางแทนบัตรประชาชน เพื่อเป็นเอกสารประกอบการยื่นข้อเสนอ)
  •    ข้อมูลการติดต่อ เช่น ที่อยู่ หมายเลขโทรศัพท์ อีเมล เป็นต้น
  •    ข้อมูลการศึกษา เช่น สาขา และสถาบันการศึกษา เป็นต้น (เฉพาะในกรณีที่ท่านจำเป็นต้องใช้ข้อมูลการศึกษาเป็นเอกสารประกอบการยื่นข้อเสนอ)
  •    ข้อมูลการทำงาน เช่น ตำแหน่ง หน่วยงาน ประวัติการทำงาน เป็นต้น (เฉพาะในกรณีที่ท่านจำเป็นต้องใช้ประวัติการทำงานเป็นเอกสารประกอบการยื่นข้อเสนอ)
  •    ข้อมูลส่วนบุคคลอื่น ๆ ที่ท่านให้สถาบันโดยความสมัครใจ เพื่อเป็นเอกสารประกอบการยื่นข้อเสนอ
2.ข้อมูลส่วนบุคคลอ่อนไหวที่สถาบันเก็บรวบรวมและใช้ไม่มีการจัดเก็บ
3.เหตุผลที่สถาบันจำเป็นต้องเก็บรวบรวมหรือใช้ข้อมูลส่วนบุคคลชุดนี้
  •    เพื่อพิจารณาคุณสมบัติ ความเชี่ยวชาญและประสบการณ์ของผู้ยื่นข้อเสนอ เพื่อคัดเลือกและตัดสินใจให้เข้ามาดำเนินงานให้สถาบัน
  •    เพื่อติดต่อประสานงาน ขอข้อมูลเพิ่มสเติมเกี่ยวกับการดำเนินการจัดซื้อจัดจ้าง
  •    เพื่อประกาศผลการพิจารณาคัดเลือกผู้ชนะการจัดซื้อจัดจ้างหรือผู้ได้รับการคัดเลือก ตามสื่อต่าง ๆ ที่สถาบันกำหนด
4.เหตุผลที่สถาบันได้รับการอนุญาตให้เก็บรวบรวมหรือใช้ข้อมูลส่วนบุคคลชุดนี้
  •    เป็นการจำเป็นในการปฏิบัติตามสัญญาหรือความจำเป็นในการดำเนินการเพื่อเข้าทำสัญญาที่ท่านเป็นคู่สัญญากับสำนักงาน ซึ่งเป็นไปตาม มาตรา 24 (3) แห่งพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562
  •    เป็นการจำเป็นเพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของสถาบัน โดยประโยชน์ดังกล่าวมีความสำคัญไม่น้อยไปกว่าสิทธิขั้นพื้นฐานในข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ซึ่งเป็นไปตาม มาตรา 24 (5) แห่งพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562
  •    เป็นการปฏิบัติตามกฎหมายของสถาบัน ซึ่งเป็นไปตาม มาตรา 24 (6) แห่งพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562
5.หน่วยงานที่สถาบันอาจแบ่งปันหรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลที่เก็บรวบรวมไว้
  •    ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจะมีการเปิดเผยเป็นการภายในสถาบัน และเฉพาะบุคคลที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการดำเนินงาน รวมถึง ผู้ตรวจสอบภายนอกที่ทำหน้าที่ตรวจประเมินตามที่กฎหมายกำหนด หรือตามระบบมาตรฐานการดำเนินกิจการนี้เท่านั้น
  •    ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านอาจมีการเปิดเผยและแบ่งปันให้กับหน่วยงานของรัฐ เช่น กรมบัญชีกลาง ซึ่งเป็นหน่วยงานเจ้าของระบบการจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐด้วยอิเล็กทรอนิกส์ หรือหน่วยงานของรัฐที่สถาบันมีการรายงานข้อมูลเกี่ยวกับการจัดซื้อจัดจ้าง ซึ่งเป็นไปตามที่กฎหมายกำหนด เป็นต้น
6.ระยะเวลาในการจัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคลนี้จะถูกจัดเก็บเป็นระยะเวลา 10 ปี นับจากวันสิ้นสุดปีงบประมาณที่ดำเนินการ
7.หน่วยงานต่างประเทศที่สถาบันส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลที่เก็บรวมรวมไว้ไปให้ไม่มี

 

การให้บริการวิชาการ

หัวข้อรายละเอียด
1.ข้อมูลส่วนบุคคลที่สถาบันเก็บรวบรวมและใช้
  •    ชื่อ นามสกุล
  •    การให้บริการวิชาการ
  •    อายุ
  •    เพศ
  •    รูปถ่าย
  •    ข้อมูลการติดต่อ เช่น ที่อยู่ หมายเลขโทรศัพท์ อีเมล Line ID เป็นต้น>
  •    ข้อมูลการทำงาน เช่น หน่วยงาน ตำแหน่ง ที่อยู่ ประวัติการทำงาน เป็นต้น
  •    หลักฐานการชำระเงิน
  •    เลขที่บัญชีธนาคาร (กรณีที่ต้องโอนเงินคืน)
  •    ข้อมูลยานพาหนะ เช่น ทะเบียนรถ เป็นต้น (สำหรับแจ้งการเข้าพื้นที่ในวันหยุดราชการ)
2.ข้อมูลส่วนบุคคลอ่อนไหวที่สถาบันเก็บรวบรวมและใช้

บางหลักสูตรอาจมีการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลเพิ่มเติม เช่น

  •    สำเนาบัตรประชาชน (ปิดบังข้อมูลศาสนา)
  •    สำเนาทะเบียนบ้าน
  •    ใบรับรองแพทย์
  •    ผลการตรวจสุขภาพ
  •    ประวัติการรับวัคซีน เป็นต้น
  •    ศาสนา (สำหรับการจัดเตรียมอาหารและของว่าง)
  •    ข้อมูลการแพ้อาหาร (สำหรับการจัดเตรียมอาหารและของว่าง)
3.เหตุผลที่สถาบันจำเป็นต้องเก็บรวบรวมหรือใช้ข้อมูลส่วนบุคคลชุดนี้
  •    เพื่อการลงทะเบียนเข้ารวมกิจกรรมที่สถาบันได้จัดขึ้น และตรวจสอบสิทธิในการเข้าร่วมกิจกรรม
  •    เพื่อติดต่อกลับไปยังท่านเพื่อให้ความช่วยเหลือ ขอข้อมูลเพิ่มเติม หรือแจ้งความคืบหน้าการดำเนินการ รวมถึงติดตามผลการดำเนินโครงการ
  •    เพื่อเผยแพร่และประชาสัมพันธ์ผลการดำเนินงานของสถาบันตามสื่อต่าง ๆ
  •    เพื่อประโยชน์ในการวิเคราะห์และจัดทำข้อมูลเชิงสถิติ โดยข้อมูลบางส่วน เช่น ข้อมูลหน่วยงาน เป็นต้น อาจถูกประมวลผลและแสดงผลเป็นข้อมูลในภาพรวมโดยวิธีการทำให้ไม่สามารถระบุตัวบุคคลได้
  •    เพื่อประชาสัมพันธ์หรือแจ้งกิจกรรมอื่น ๆ ของสถาบันตลอดจนเชิญเข้าร่วมกิจกรรมในอนาคต (กรณีนี้จะต้องขอความยินยอม)
4.เหตุผลที่สถาบันได้รับการอนุญาตให้เก็บรวบรวมหรือใช้ข้อมูลส่วนบุคคลชุดนี้
  •    เป็นการจำเป็นในการปฏิบัติตามสัญญาหรือความจำเป็นในการดำเนินการเพื่อเข้าทำสัญญาที่ท่านเป็นคู่สัญญากับสำนักงาน ซึ่งเป็นไปตาม มาตรา 24 (3) แห่งพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562
  •    เป็นการจำเป็นเพื่อปฏิบัติหน้าที่เพื่อประโยชน์สาธารณะ และเพื่อใช้อำนาจรัฐที่ได้มอบให้แก่สถาบัน ซึ่งเป็นไปตาม มาตรา 24 (4) แห่งพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562
  •    เป็นการจำเป็นในการปฏิบัติตามกฎหมายเพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์เกี่ยวกับประโยชน์สาธารณะที่สำคัญ ซึ่งเป็นไปตาม มาตรา 26 (5) (จ) แห่งพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562
5.หน่วยงานที่สถาบันอาจแบ่งปันหรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลที่เก็บรวบรวมไว้
  •    ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจะมีการเปิดเผยเป็นการภายในสถาบัน และเฉพาะบุคคลที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการดำเนินงานเท่านั้น
  •    ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านอาจจะมีการเปิดเผยให้กับเจ้าหน้าที่ หรือหน่วยงานที่มีอำนาจหน้าที่ หรือมีคำสั่งโดยชอบด้วยกฎหมาย เพื่อดำเนินการตามที่กฎหมายกำหนด
6.ระยะเวลาในการจัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคลนี้จะถูกจัดเก็บเป็นระยะเวลา 2 ปี นับจากวันที่สิ้นสุดการฝึกอบรม
7.หน่วยงานต่างประเทศที่สถาบันส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลที่เก็บรวมรวมไว้ไปให้ไม่มี

 

การใช้งาน Website ของสถาบัน

หัวข้อรายละเอียด
1.ข้อมูลส่วนบุคคลที่สถาบันเก็บรวบรวมและใช้
  •    ข้อมูลในการใช้งานเว็บไซต์เพื่อให้สอดคล้องกับนโยบายเทคโนโลยีสารสนเทศและกฎหมายที่เกี่ยวข้อง เช่น IP Address / MAC Address / วันเดือนปี เวลา ที่ใช้งาน / Cookies เป็นต้น
2.ข้อมูลส่วนบุคคลอ่อนไหวที่สถาบันเก็บรวบรวมและใช้ไม่มีการจัดเก็บ
3.เหตุผลที่สถาบันจำเป็นต้องเก็บรวบรวมหรือใช้ข้อมูลส่วนบุคคลชุดนี้
  •    เป็นการจัดเก็บข้อมูลเส้นทางการใช้งานอินเทอร์เน็ต หรือการเชื่อมต่อสื่อสารกันระหว่างเครื่องคอมพิวเตอร์ รวมถึงมือถือและแท็บเล็ต ซึ่งแสดงถึงแหล่งต้นทาง ปลายทาง วันที่ ปริมาณ ระยะเวลา หากมีผู้กระทำผิด สามารถใช้เป็นหลักฐานประกอบในการดำเนินคดีได้
4.เหตุผลที่สถาบันได้รับการอนุญาตให้เก็บรวบรวมหรือใช้ข้อมูลส่วนบุคคลชุดนี้
  •    เป็นการปฏิบัติตามกฎหมายของสถาบัน ซึ่งเป็นไปตาม มาตรา 24 (6) แห่งพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562
  •    ใช้ฐานความยินยอม กรณีที่เป็น Cookies ซึ่งเป็นไปตามมาตรา 19 แห่งพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562
5.หน่วยงานที่สถาบันอาจแบ่งปันหรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลที่เก็บรวบรวมไว้
  •    สถาบันอาจจำเป็นต้องส่งข้อมูลพิสูจน์ความผิดว่าด้วยธุรกรรมทางคอมพิวเตอร์แก่ผู้ให้บริการสารสนเทศที่เกี่ยวข้อง
6.ระยะเวลาในการจัดเก็บ
  •    ระยะเวลาในการจัดเก็บเป็นไปตามที่พระราชบัญญัติด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2550
7.หน่วยงานต่างประเทศที่สถาบันส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลที่เก็บรวมรวมไว้ไปให้ไม่มี
หัวข้อรายละเอียด
1. ข้อมูลส่วนบุคคลที่สถาบันเก็บรวบรวมและใช้

 

  •    ข้อมูลเกี่ยวกับตัวของบุคลากร เช่น ชื่อ นามสกุล ลายมือชื่อ วันเดือนปีเกิด อายุ เพศ สถานะการสมรส รูปถ่าย หรือข้อมูลที่เกี่ยวข้อง
  •    ข้อมูลในการติดต่อกับบุคลากร เช่น ที่อยู่ หมายเลขโทรศัพท์ อีเมล หรือข้อมูลที่เกี่ยวข้อง
  •    ข้อมูลเกี่ยวกับสมาชิกครอบครัวหรือผู้อยู่ในความดูแลของบุคลากรที่มีสิทธิได้รับสวัสดิการตามข้อบังคับและ ระเบียบการบริหารงานบุคคลของสถาบัน เช่น ข้อมูลเกี่ยวกับคู้สมรส ข้อมูลเกี่ยวกับบุตร ข้อมูลเกี่ยวกับ บิดามารดา ผู้รับผลประโยชน์ ทั้งนี้ ก่อนการให้ข้อมูลกับสถาบัน ให้บุคลากรแจ้งประกาศความเป็นส่วนตัว ด้านข้อมูลของบุคลากรนี้ให้บุคคลดังกล่าวทราบด้วย
  •    ข้อมูลที่จำเป็นสำหรับการรายงานหน่วยงานที่กำกับดูแล
  •    ข้อมูลทางการเงิน เช่น ข้อมูลค่าจ้าง เงินเดือน ค่าตอบแทน เงินได้ เงินหัก ภาษี กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ บัญชีธนาคาร การกู้ยืมเงิน รายการยกเว้นหรือหักลดหย่อนทางภาษี หรือข้อมูลที่เกี่ยวข้อง
  •    ข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับการประกันสังคม การคุ้มครองแรงงาน สิทธิประโยชน์ สวัสดิการ และผลประโยชน์ที่บุคลากรได้รับหรือมีสิทธิที่จะได้รับตามข้อบังคับและประกาศของสถาบันและกฎหมายที่เกี่ยวข้อง
  •    ข้อมูลประวัติการปฏิบัติงาน ตำแหน่งงาน ภาระงาน ผลงานทางวิชาการ ความเชี่ยวชาญ ผลการปฏิบัติงาน ผลการเลื่อนเงินเดือน รางวัลต่าง ๆ ที่เกี่ยวกับการเชิดชูเกียรติ การเข้าประชุม หรือข้อมูลที่เกี่ยวข้อง
  •    ข้อมูลที่รวบรวมจากการมีส่วนร่วมกับสถาบันหรือส่วนงานอื่น ๆ เช่น ภาพถ่าย ภาพเคลื่อนไหว และเสียงที่ถูกบันทึกที่อาจมีการถ่ายหรือบันทึกระหว่างที่มีการจัดงาน กิจกรรม หรือการประชุม การตอบแบบสำรวจ การตอบแบบประเมิน
  •    ข้อมูลอื่น ๆ ที่จำเป็นต่อการปฏิบัติตามสัญญาจ้าง การดูแลสิทธิประโยชน์สวัสดิการ การวิเคราะห์ และการบริหารงานของสถาบัน การดูแลบุคลากรและสมาชิกในครอบครัว และการปฏิบัติตามกฎหมายต่าง ๆ
  •    ข้อมูลเกี่ยวกับการร้องเรียน การร้องทุกข์ การสอบสวน การลงโทษทางวินัย
  •    ข้อมูลเกี่ยวกับการศึกษา ความสามารถ และการพัฒนาศักยภาพ และคุณสมบัติอื่น ๆ ของบุคลากร เช่น ระดับการศึกษา วุฒิการศึกษา สถาบัน / มหาวิทยาลัย ประวัติการศึกษา ประวัติการฝึกอบรม ผลการศึกษา ผลการทดสอบ สิทธิในการทำงานอย่างถูกต้องตามกฎหมาย คุณสมบัติด้านวิชาชีพ ความสามารถทางด้านภาษา และความสามารถอื่น ๆ ข้อมูลจากการอ้างอิงที่บุคลากรได้ให้แก่สถาบัน รวมถึงข้อมูลที่ได้จากสถาบัน สมาคมที่สถาบันทำการตรวจสอบ
  •    สำเนาเอกสารที่สามารถใช้เพื่อระบุตัวตนของบุคลากร สมาชิกใสครอบครัว ผู้ค้ำประกันของบุคลากร เช่น เลขประจำตัวประชาชน หนังสือเดินทาง เอกสารอื่น ๆ ที่ออกให้โดยหน่วยงานของรัฐ ทะเบียนราษฎร์
  •    ข้อมูลเกี่ยวกับประสบการณ์ทำงานและข้อมูลเกี่ยวกับการจ้างงานในอดีต เช่น ตำแหน่งงาน รายละเอียดของนายจ้าง เงินเดือนและค่าตอบแทน สวัสดิการที่ได้รับ
  •    สถานภาพทางการทหาร
  •    ข้อมูลเกี่ยวกับลักษณะของบุคลากร เช่น นิสัย พฤติกรรม ทัศนคติ ความถนัด ทักษะ ภาวะความเป็นผู้นำ ความสามารถในการทำงานร่วมกับผู้อื่น ความฉลาดทางอารมณ์ ความผูกพันต่อองค์กร ซึ่งอาจได้มาจากการสังเกต วิเคราะห์ และประมวลผลข้อมูลของสถาบันในระหว่างการปฏิบัติงานหรือเข้าร่วมกิจกรรมกับสถาบัน
  •    รายละเอียดของผู้ที่สามารถติดต่อได้ในกรณีฉุกเฉิน
  •    ข้อมูลเกี่ยวกับยานพาหนะ ใบอนุญาตขับขี่ สำเนาทะเบียนรถ
  •    ข้อมูลเกี่ยวกับโรคและการเจ็บป่วย ข้อมูลเกี่ยวกับอุบัติเหตุ ทั้งในกรณีที่บุคลากรประสบอุบัติเหตุในเวลางานหรืออันเนื่องมาจากการปฏิบัติงานและอุบัติเหตุอื่น ๆ
  •    บันทึกการเข้าออกงานและระยะเวลาในการปฏิบัติงาน การทำงานล่วงเวลา การขาด ลา มาสาย
  •    ข้อมูลในการใช้งานและเข้าถึงระบบสารสนเทศ คอมพิวเตอร์ ระบบงาน เว็บไซต์ แอปพลิเคชั่น อีเมล เพื่อให้สอดคล้องกับนโยบายเทคโนโลยีสารสนเทศและกฎหมายที่เกี่ยวข้อง
  •    ข้อมูลที่บุคลากรเลือกจะแบ่งปันและเปิดเผยผ่านระบบ แอปพลิเคชัน เครื่องมือ แบบสอบถาม แบบประเมิน และเอกสารต่าง ๆ ของสถาบัน

 

2.ข้อมูลส่วนบุคคลอ่อนไหวที่สถาบันเก็บรวบรวมและใช้

 

  •    ข้อมูลความประพฤติ
  •    ข้อมูลจำลองใบหน้า ลายนิ้วมือ (ขอความยินยอม)
  •    ศาสนา
  •    ข้อมูลสุขภาพ
  •    ความพิการ

 

หากสถาบันได้รับข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหวของบุคลากรและสมาชิกในครอบครัวนอกเหนือจากที่กล่าวมาข้างต้น จากเอกสารประกอบอื่น ๆ จะถือว่าบุคลากรยินยอมให้สถาบัน จัดเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลอ่อนไหวนั้น

3.เหตุผลที่สถาบันจำเป็นต้องเก็บรวบรวมหรือใช้ข้อมูลส่วนบุคคลชุดนี้
  •    ประกาศผู้ปฏิบัติงานใหม่ ผู้ปฏิบัติงานดีเด่น หรือได้รับการคัดเลือกเป็นผู้ปฏิบัติงานดีเด่น ประกาศครบอายุการทำงาน ประกาศเกี่ยวกับการเลื่อนตำแหน่ง และการย้ายหน่วยงานของผู้ปฏิบัติงาน
  •    เพื่อการจัดการและดำเนินการที่เกี่ยวข้องกับสวัสดิการและสิทธิประโยชน์ของผู้ปฏิบัติงานและครอบครัว
  •    การบริหารจัดการเรื่องเงินเดือน ค่าตอบแทนพิเศษ ค่าล่วงเวลา ค่าที่พัก ค่าเดินทาง รวมถึงกองทุนสำรองเลี้ยงชีพและผลประโยชน์อื่น ๆ ของผู้ปฏิบัติงาน
  •    บริหารจัดการด้านภาษีของผู้ปฏิบัติงาน เช่น ภาษีเงินได้หัก ณ ที่จ่าย
  •    การรักษาความปลอดภัยของอาคารสถานที่ และทรัพย์สินอื่น ๆ ของสำนักงาน (ลายนิ้วมือ)
  •    การบริหารจัดการด้านกิจกรรมของผู้ปฏิบัติงาน เช่น งานเลี้ยงปีใหม่ การดูงาน สัมมนา หรืองานสังสรรค์อื่น ๆ ที่จัดให้แก่ผู้ปฏิบัติงาน
  •    การลงเวลาปฏิบัติงาน การบริหารจัดการด้านวันหยุด วันลา ขาดงาน สาย (ลายนิ้วมือ / ภาพจำลองใบหน้า)
  •    การกำหนดเป้าหมายในการทำงาน ประเมินผลการทำงานของผู้ปฏิบัติงาน การพิจารณาปรับตำแหน่ง ปรับเงินเดือน และพิจารณาเรื่องค่าตอบแทนพิเศษ
  •    การเข้ารับการอบรม และการสอบวัดความรู้สำหรับผู้ปฏิบัติงาน
  •    การตรวจสอบ สืบสวนสอบสวนพฤติกรรมทุจริต หรือขัดต่อกฎหมาย กฎระเบียบ และข้อบังคับการทำงานของสำนักงาน การพิจารณาและลงโทษทางวินัย หรือการใช้สิทธิตามสัญญาหรือกฎหมาย
  •    การส่งรายงานข้อมูลเกี่ยวกับคุณสมบัติของผู้ปฏิบัติงานให้แก่หน่วยงานกำกับดูแล และหน่วยงานที่มีอำนาจตามที่มีกฎหมายกำหนด เช่น กระทรวงอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม เป็นต้น
4.เหตุผลที่สถาบันได้รับการอนุญาตให้เก็บรวบรวมหรือใช้ข้อมูลส่วนบุคคลชุดนี้
  •    เป็นการจำเป็นในการปฏิบัติตามสัญญาหรือความจำเป็นในการดำเนินการเพื่อเข้าทำสัญญาที่ท่านเป็นคู่สัญญากับสำนักงาน ซึ่งเป็นไปตาม มาตรา 24 (3) แห่งพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562
  •    เป็นการจำเป็นเพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของสถาบัน โดยประโยชน์ดังกล่าวมีความสำคัญไม่น้อยไปกว่าสิทธิขั้นพื้นฐานในข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ซึ่งเป็นไปตาม มาตรา 24 (5) แห่งพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562
  •    เป็นการปฏิบัติตามกฎหมายของสถาบัน ซึ่งเป็นไปตาม มาตรา 24 (6) แห่งพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562
  •    เพื่อป้องกันหรือระงับอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย หรือสุขภาพของบุคคล ซึ่งเป็นไปตาม มาตรา 26 (1) แห่งพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562
  •    เป็นการจำเป็นในการปฏิบัติตามกฎหมายเพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์เกี่ยวกับประโยชน์สาธารณะที่สำคัญ ซึ่งเป็นไปตาม มาตรา 26 (5) (จ) แห่งพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562
  •    ใช้ฐานความยินยอมโดยชัดแจ้ง กรณีที่เป็น ลายนิ้วมือ และภาพจำลองใบหน้า ซึ่งเป็นไปตามมาตรา 19 แห่งพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562
5.หน่วยงานที่สถาบันอาจแบ่งปันหรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลที่เก็บรวบรวมไว้

ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจะมีการเปิดเผยให้กับ

  •    เจ้าหน้าที่ หรือหน่วยงานที่มีอำนาจหน้าที่ หรือมีคำสั่งโดยชอบด้วยกฎหมาย เพื่อดำเนินการตามที่กฎหมายกำหนด เช่น กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัย และนวัตกรรม เป็นต้น
  •    คู่สัญญา พันธมิตร หรือองค์กรอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องในการดำเนินการของสถาบัน
  •    สถาบันทํางานร่วมกับสถาบันการเงิน ซึ่งจําเป็นต้องมีการส่งข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อใช้ในการจ่ายเงินเดือน การจัดสวัสดิการเงินกู้ต่าง ๆ การทําธุรกรรมทางการเงินซึ่งอาจมีการส่งมอบข้อมูลส่วนบุคคลของบุคลากรและส่งกลับเพื่อยืนยันสถานะการทําธุรกรรม
  •    สถาบันอาจจำเป็นต้องส่งข้อมูลส่วนบุคคลให้กับสำนักงบประมาณ กรมบัญชีกลาง สำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน เพื่อประโยน์ในการพิจารณาประกอบการจัดสรรและตรวจสอบการใช้งบประมาณ
  •    สถาบันอาจดำเนินการเป็นผู้ประสานงาน ในการรับและส่งข้อมูลส่วนบุคคลของบุคลากรให้กับหน่วยงานที่บุคลากรสมัครเข้าทำงาน ฝึกอบรม หรือศึกษาดูงาน
  •    สถาบันอาจต้องแลกเปลี่ยนหรือให้ข้อมูลผู้ทรงคุณวุฒิเพื่ออ่านและประเมินผลงานทางวิชาการของบุคลากรกับสถาบันการศึกษาต่าง ๆ เพื่อประโยชน์ทางวิชาการ
  •    สถาบันอาจจำเป็นต้องเปิดเผยและแบ่งปันข้อมูลส่วนบุคคลของบุคลากรแก่หน่วยงานภาครัฐ และเอกชนที่เกี่ยวข้อง เพื่อประโยชน์ในการบริหารงานด้านทรัพยากรบุคคลของสถาบัน เช่น ผู้ให้บริการพัฒนาระบบสารสนเทศด้านทรัพยากรบุคคล บริษัทเอกชนที่ร่วมดำเนินการจัดสวัสดิการและสิทธิประโยชน์ให้กับบุคลากรของสถาบัน เป็นต้น
  •    เพื่อคุ้มครองสิทธิขั้นพื้นฐาน สถาบันมีการประสานงานกับบริษัทประกันภัย เพื่อคุ้มครองอุบัติเหตุและประกันสุขภาพของบุคลากร จึงจำเป็นต้องมีการประสานกับบริษัทประกันภัย ในการรับและส่งข้อมูลส่วนบุคคลของบุคลากรเพื่อใช้ในการคุ้มครองสิทธิ
  •    สถาบันจำเป็นต้องมีการส่งข้อมูลส่วสนบุคคลให้กับส่วนราชการตามที่กฎหมายกำหนด เช่น สำนักงานประกันสังคม กรมสรรพากร เป็นต้น
  •    สถาบันอาจจำเป็นต้องส่งข้อมูลพิสูจน์ความผิดว่าด้วยธุรกรรมทางคอมพิวเตอร์แก่ผู้ให้บริการสารสนเทศที่เกี่ยวข้อง
6.ระยะเวลาในการจัดเก็บ

สถาบันเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของบุคลากรและสมาชิกในครอบครัวไว้ตลอดระยะเวลาที่เป็นบุคลากรของสถาบัน และจําเป็นต้องเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของบุคลากรและสมาชิกในครอบครัวต่อไปอีกแม้จะสิ้นสุดสถานภาพการเป็นบุคลากรของสถาบันไปแล้ว เพื่อประโยชน์ในการบริหารงานด้านทรัพยากรบุคคลและประโยชน์ในการจัดสวัสดิการและสิทธิประโยชน์แก่บุคลากรของสถาบัน โดยมีรายละเอียดดังต่อไปนี้

  •    ข้อมูลส่วนบุคคลที่จําเป็นต้องเก็บตลอดไป ได้แก่ ข้อมูลเกี่ยวกับตัวของบุคลากร เช่น ชื่อ นามสกุล วันเดือนปีเกิด อายุ เพศ สถานะการสมรส รูปถ่าย หรือข้อมูลที่เกี่ยวข้อง ข้อมูลในการติดต่อกับบุคลากร เช่น ที่อยู่ หมายเลขโทรศัพท์ อีเมล หรือข้อมูลที่เกี่ยวข้อง ข้อมูลเกี่ยวกับสมาชิกครอบครัวหรือผู้อยู่ในความดูแลของบุคลากรที่มีสิทธิ ได้รับสวัสดิการตามข้อบังคับและระเบียบการบริหารงานบุคคลของสถาบัน ข้อมูลที่จําเป็นสําหรับการรายงานหน่วยงานที่กํากับดูแล ข้อมูลทางการเงิน เช่น ข้อมูลค่าจ้าง เงินเดือน รายได้ ภาษี กองทุนสํารองเลี้ยงชีพ บัญชีธนาคาร การกู้ยืมเงิน รายการยกเว้นหรือหักลดหย่อนทางภาษี หรือข้อมูลที่เกี่ยวข้อง ข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับการประกันสังคม การคุ้มครองแรงงาน สิทธิประโยชน์ สวัสดิการ และผลประโยชน์ที่บุคลากรได้รับหรือมีสิทธิที่จะได้รับตามข้อบังคับและ ประกาศของสถาบัน ข้อมูลประวัติการปฏิบัติงาน ตําแหน่งงาน ภาระงาน ผลงานทางวิชาการ ความเชี่ยวชาญ ผลการปฏิบัติงาน การเข้าประชุม หรือข้อมูลที่เกี่ยวข้อง ข้อมูลที่รวบรวมจากการมีส่วนร่วมกับมหาวิทยาลัย ข้อมูลอื่น ๆ ที่จําเป็นต่อการปฏิบัติตามสัญญาจ้าง การดูแลสิทธิประโยชน์สวัสดิการ การวิเคราะห์และการบริหารงานของ มหาวิทยาลัย และการปฏิบัติตามกฎหมายต่าง ๆ ข้อมูลที่เกี่ยวกับการ ร้องเรียน การร้องทุกข์ การสอบสวน การลงโทษทางวินัย
  •    ข้อมูลส่วนบุคคลที่เจ้าของข้อมูลสามารถแจ้งความประสงค์ลบข้อมูลหลังครบอายุเกษียณแล้ว 10 ปี ได้แก่ ข้อมูลเกี่ยวกับการศึกษา ความสามารถ และการพัฒนาศักยภาพ สําเนาเอกสารที่สามารถใช้เพื่อระบุตัวตนของบุคลากร ข้อมูลเกี่ยวกับประสบการณ์ทํางานและข้อมูลเกี่ยวกับการจ้างงานในอดีต (ก่อนบรรจุเป็นบุคลากรของมหาวิทยาลัย) สถานภาพทางการทหาร ข้อมูลเกี่ยวกับลักษณะของบุคลากรได้มาจากการสังเกตและวิเคราะห์ของสถาบัน รายละเอียดของผู้ที่สามารถติดต่อได้ในกรณีฉุกเฉิน ข้อมูลเกี่ยวกับยานพาหนะ ใบอนุญาตขับขี่ ความสามารถในการขับขี่ ยานพาหนะ ข้อมูลเกี่ยวกับอุบัติเหตุ รายงานการปฏิบัติงาน การทํางานล่วงเวลา การขาดและลางาน ข้อมูลการใช้งานและ การเข้าถึงระบบสารสนเทศ ข้อมูลที่บุคลากรเลือกจะแบ่งปันและเปิดเผยผ่านระบบ แอปพลิเคชัน เครื่องมือ แบบสอบถาม แบบประเมิน และเอกสารต่าง ๆ ของสถาบัน
7.หน่วยงานต่างประเทศที่สถาบันส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลที่เก็บรวมรวมไว้ไปให้ไม่มี
หัวข้อรายละเอียด
1. ข้อมูลส่วนบุคคลที่สถาบันเก็บรวบรวมและใช้

สถาบันอาจมีการจัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของนักเรียน นักศึกษา ระหว่างที่มีการสมัครเข้าศึกษา และเพิ่มเติมระหว่างการลงทะเบียนเพื่อเป็นนักเรียน นักศึกษา และระหว่างที่เป็นนักเรียน นักศึกษา ทั้งนี้ข้อมูลที่ระบุต่อไปนี้ ส่วนใหญ่จะเก็บจากนักเรียน นักศึกษาทุกคน แต่มีบางประเภทอาจมีการจัดเก็บในบางกรณีหรือบางสถานการณ์ และอาจไม่จัดเก็บกับนักเรียน นักศึกษาทุกคน เช่น

 

  •    รหัสนักเรียน นักศึกษา
  •    ชื่อ นามสกุล
  •    วัน/เดือน/ปีเกิด
  •    เพศ
  •    รูปถ่าย
  •    สัญชาติ
  •    หมายเลขบัตรประชาชน และข้อมูลที่ปรากฏบนบัตรประชาชน
  •    สถานะนักเรียน นักศึกษา เช่น กำลังศึกษา ลาพักการศึกษา พ้นสภาพ เป็นต้น
  •    ข้อมูลหลักสูตรที่ทำการศึกษา เช่น คณะ สาขาวิชา
  •    ข้อมูลการลงทะเบียนและชำระเงิน
  •    ข้อมูลการวัดและประเมินผลการศึกษา เช่น เกรด คะแนนสอบ
  •    ข้อมูลการติดต่อ เช่น ที่อยู่ตามทะเบียนบ้าน ที่อยู่ที่สามารถติดต่อได้ หมายเลขโทรศัพท์ อีเมล เป็นต้น
  •    ข้อมูลครอบครัว เช่น จำนวนพี่น้อง บุตรคนที่ ชื่อบิดา มารดา ผู้ปกครอง สถานที่ทำงาน รายได้ เป็นต้น
  •    คุณสมบัติการศึกษาแรกเข้า เช่น ระดับการศึกษา วุฒิการศึกษาสูงสุด สถาบันที่สำเร็จการศึกษา ผลการเรียน
  •    ข้อมูลการเข้าร่วมกิจกรรมของสถาบัน เช่น ภาพนิ่ง ภาพเคลื่อไหว ผลงาน รางวัล
  •    ภาพเคลื่อนไหวจากกล้องวงจรปิดภายใน และบริเวณโดยรอบสถาบัน
  •    ข้อมูลที่เกี่ยวข้องทางกฎหมาย เช่น บันทึกการใช้งานทางด้านสารสนเทศ
  •    ภาพและเสียงระหว่างการจัดการเรียนการสอนผ่านระบบออนไลน์

 

2.ข้อมูลส่วนบุคคลอ่อนไหวที่สถาบันเก็บรวบรวมและใช้
  •    ศาสนา
  •    ข้อมูลความพิการ
  •    ข้อมูลสุขภาพ เช่น หมู่โลหิต การแพ้ยา รวมทั้งข้อมูลที่ต้องจัดเก็บเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรค เช่น Covid-19 ซึ่งจะมีการจัดเก็บในสถานการณ์เฉพาะ
  •    ข้อมูลทางวินัยที่เกี่ยวกับนักเรียน นักศึกษา
3.เหตุผลที่สถาบันจำเป็นต้องเก็บรวบรวมหรือใช้ข้อมูลส่วนบุคคลชุดนี้
  •    เพื่อใช้เป็นข้อมูลในขั้นตอนการสมัครเป็นนักศึกษาของสถาบัน
  •    เพื่อการวางแผนสิ่งอำนวยความสะดวกเพิ่มเติม เช่น ข้อมูลศาสนา ความพิการ
  •    เพื่อการให้บริการทางสุขภาพ เช่น การแพ้ยา การป้องกันการแพร่ระบาดของโรค
  •    เพื่อการส่งมอบและจัดการด้านการศึกษา เช่น บันทึกรายละเอียดของการศึกษา เช่น หลักสูตร ชั้นปีที่กำลังศึกษา เป็นต้น สรุปผลสัมฤทธิ์ทางการศึกษา เช่น เกรด ผลสอบ เป็นต้น บันทึกการฝึกอบรม ศึกษาดูงาน หรือฝึกงาน เป็นต้น เป็นช่องทางการสื่อสารกับนักเรียนนักศึกษาทั้งรูปแบบทางการ และไม่เป็นทางการ
  •    เพื่อจัดการทรัพยากร เช่น การเข้าถึงและใช้ระบบสารสนเทศ โปรแกรมคอมพิวเตอร์ ห้องสมุด หอพักนักศึกษา เป็นต้น
  •    เพื่อสนับสนุนการจัดกิจกรรมและพัฒนาทักษะของนักศึกษา
  •    เพื่อดำเนินการด้านการประกันคุณภาพการศึกษา
  •    เพื่อติดตามเชิงกฎหมาย เช่น บันทึกการใช้งานสารสนเทศ
  •    เพื่อความปลอดภัย เช่น กล้องวงจรปิด
  •    เพื่อให้บริการด้านสุขภาพจิต
  •    เพื่อการรายงานผลการดำเนินการตามที่กฎหมายกำหนด
  •    เพื่อการบริหารจัดการด้านค่าธรรมเนียมและการให้ทุน ซึ่งในบางกรณีจำเป็นต้องมีการให้ข้อมูลอ่อนไหวประกอบการพิจารณา
  •    เพื่อการประชาสัมพันธ์หลักสูตร กิจกรรมต่าง ๆ ของสถาบัน
4.เหตุผลที่สถาบันได้รับการอนุญาตให้เก็บรวบรวมหรือใช้ข้อมูลส่วนบุคคลชุดนี้
  •    เป็นการจำเป็นเพื่อการปฏิบัติตามสัญญาซึ่งท่านเป็นคู่สัญญาหรือเพื่อใช้ในการดำเนินการตามคำขอของท่านก่อนเข้าทำสัญญา ซึ่งเป็นไปตาม มาตรา 24 (3) แห่งพระพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562
  •    เป็นการจำเป็นเพื่อปฏิบัติหน้าที่เพื่อประโยชน์สาธารณะ และเพื่อใช้อำนาจรัฐที่ได้มอบให้แก่สถาบัน (พ.ร.บ.สถาบันเทคโนโลยีจิตรลดา พ.ศง 2561) ซึ่งเป็นไปตาม มาตรา 24 (4) แห่งพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562
  •    เป็นการจำเป็นเพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของสถาบัน ซึ่งเป็นไปตาม มาตรา 24 (5) แห่งพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562
  •    เป็นการปฏิบัติตามกฎหมายของสถาบัน ซึ่งเป็นไปตาม มาตรา 24 (6) แห่งพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562
  •    สำหรับข้อมูลส่วนบุคคลอ่อนไหว เพื่อเป็นการจำเป็นในการปฏิบัติตามกฎหมาย เพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์เกี่ยวกับประโยชน์สาธารณะที่สำคัญ เช่น การคุ้มครองสิทธิขั้นพื้นฐานและประโยชน์ของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล ซึ่งเป็นไปตาม มาตรา 26 (5) (จ) แห่งพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562
5.หน่วยงานที่สถาบันอาจแบ่งปันหรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลที่เก็บรวบรวมไว้

สถาบันได้ทำงานร่วมกับบุคคลหรือหน่วยงานอื่นที่เกี่ยวข้อง ข้อมูลส่วนบุคคลบางส่วนอาจมีการเปิดเผย ดังนี้

  •    เปิดเผยเป็นการภายในสถาบัน และเฉพาะบุคคลที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการดำเนินงานเท่านั้น เช่น งานวิทยทรัพยากร (ห้องสมุด) งานกิจการนักเรียน นักศึกษา เป็นต้น หรือกับหน่วยงานที่นักเรียนนักศึกษามีความต้องการขอรับบริการเป็นการเฉพาะ เช่น การให้บริการทางสุขภาพจิต
  •    เปิดเผยให้กับเจ้าหน้าที่ หรือหน่วยงานที่มีอำนาจหน้าที่ หรือมีคำสั่งโดยชอบด้วยกฎหมาย เพื่อดำเนินการตามที่กฎหมายกำหนด เช่น สำนักปลัดกระทรวงอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ที่ประชุมอธิการบดี (ผ่านกระบวนการ TCAS) เป็นต้น
  •    เปิดเผยให้กับหน่วยงานให้ทุนการศึกษา หรือหน่วยงานภายนอกที่ให้ทุนการศึกษาทั้งในและต่างประเทศ เช่น สำนักงานกองทุนกู้ยืมเพื่อการศึกษา บริษัท สมาคมต่าง ๆ โดยนักศึกษาเป็นผู้สมัครขอรับทุนการศึกษา
  •    เปิดเผยให้กับบริษัทประกันภัยเพื่อคุ้มครองอุบัติเหตุและประกันสุขภาพของนักเรียน นักศึกษา
  •    เปิดเผยให้หน่วยงานที่นักศึกษาสมัครเข้าทำงาน ฝึกอบรม ศึกษาดูงาน แข่งขันทักษะวิชาชีพ แข่งขันกีฬา โดยทางสถาบันอาจดำเนินการเป็นผู้ประสานงานในการรับและส่งข้อมูลส่วนบุคคลของนักเรียนนักศึกษาตามที่มีการร้องขอ
  •    เปิดเผยให้กับผู้ทรงคุณวุฒิที่เป็นอาจารย์พิเศษในการช่วยสอน สำหรับใช้ในการพัฒนาการเรียนรู้และประมวลผลการศึกษา
  •    ในบางกรณีนักศึกษาอาจต้องไปเข้าร่วมกิจกรรม ศึกษา วิจัย หรือศึกษาดูงาน ณ ต่างประเทศ ระหว่างที่เป็นนักศึกษา ซึ่งจดำเนินการผ่านการทำสัญญาก่อน โดยสถาบันจำเป็นต้องมีการดำเนินการในการรับและส่งข้อมูลส่วนบุคคลของนักศึกษากับสถานฑูตหรือต่างประเทศ
6.ระยะเวลาในการจัดเก็บสถาบันจะทำการเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของท่านตามแผนระยะเวลาการเก็บรักษาข้อมูลในแต่ละกิจกรรม ข้อมูลส่วนบุคคลบางส่วนของท่านจะถูกจัดเก็บตลอดไปเพื่อทำการวิเคราะห์เชิงสถิติและวิจัยเพื่อปรับปรุงคุณภาพและกระบวนการ และเพื่อใช้ยืนยันการสำเร็จการศึกษาและระยะเวลาที่ทำการศึกษา
7.หน่วยงานต่างประเทศที่สถาบันส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลที่เก็บรวมรวมไว้ไปให้ไม่มี
หัวข้อรายละเอียด
1. ข้อมูลส่วนบุคคลที่สถาบันเก็บรวบรวมและใช้

สถาบันอาจมีการโอนย้ายข้อมูลส่วนบุคคลของนักเรียน นักศึกษา ระหว่างที่เป็นนักเรียน นักศึกษามาไว้ในระบบศิษย์เก่า เช่น

 

  •    รหัสนักเรียน นักศึกษา
  •    ชื่อ นามสกุล
  •    วัน/เดือน/ปีเกิด
  •    เพศ
  •    รูปถ่าย
  •    สัญชาติ
  •    หมายเลขบัตรประชาชน และข้อมูลที่ปรากฏบนบัตรประชาชน
  •    ข้อมูลหลักสูตรที่ทำสำเร็จการศึกษา เช่น คณะ สาขาวิชา
  •    ข้อมูลการวัดและประเมินผลการศึกษา เช่น เกรด คะแนนสอบ
  •    ข้อมูลการติดต่อ เช่น ที่อยู่ตามทะเบียนบ้าน ที่อยู่ที่สามารถติดต่อได้ หมายเลขโทรศัพท์ อีเมล เป็นต้น
  •    ข้อมูลการเข้าร่วมกิจกรรมของสถาบัน เช่น ภาพนิ่ง ภาพเคลื่อไหว ผลงาน รางวัล
  •    ข้อมูลที่เกี่ยวข้องทางกฎหมาย เช่น บันทึกการใช้งานทางด้านสารสนเทศ
  •    ข้อมูลผลงาน รางวัล ต่าง ๆ ที่ได้รับ ประกอบด้วย ชื่อรางวัล ประเภท ระดับรางวล หน่วยงานผู้มอบรางวัล เป็นต้น
  •    ข้อมูลการบริจาค ประกอบด้วย โครงการ วันที่ จำนวนเงินที่บริจาค เป็นต้น

 

2.ข้อมูลส่วนบุคคลอ่อนไหวที่สถาบันเก็บรวบรวมและใช้ไม่มีการจัดเก็บ
3.เหตุผลที่สถาบันจำเป็นต้องเก็บรวบรวมหรือใช้ข้อมูลส่วนบุคคลชุดนี้
  •    เพื่อดำเนินการด้านการประกันคุณภาพการศึกษา
  •    เพื่อการดำเนินกิจกรรมสร้างความสัมพันธ์ระหว่างสถาบันกับศิษย์เก่า
  •    เพื่อเป็นการแจ้งข่าว ประชาสัมพันธ์กิจกรรมและโครงการของสถาบัน
4.เหตุผลที่สถาบันได้รับการอนุญาตให้เก็บรวบรวมหรือใช้ข้อมูลส่วนบุคคลชุดนี้
  •    เป็นการจำเป็นเพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของสถาบัน ซึ่งเป็นไปตาม มาตรา 24 (5) แห่งพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562
5.หน่วยงานที่สถาบันอาจแบ่งปันหรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลที่เก็บรวบรวมไว้

สถาบันได้ทำงานร่วมกับบุคคลหรือหน่วยงานอื่นที่เกี่ยวข้อง ข้อมูลส่วนบุคคลบางส่วนอาจมีการเปิดเผย ดังนี้

  •    เปิดเผยเป็นการภายในสถาบัน และเฉพาะบุคคลที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการดำเนินงานเท่านั้น
  •    เปิดเผยให้หน่วยงานที่นักศึกษาสมัครเข้าทำงาน โดยทางสถาบันอาจดำเนินการเป็นผู้ประสานงานในการรับและส่งข้อมูลส่วนบุคคลของนักเรียนนักศึกษาตามที่มีการร้องขอ
6.ระยะเวลาในการจัดเก็บสถาบันจะทำการเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไว้เป็นระยะเวลาอย่างน้อย 30 ปี นับจากที่สิ้นสุดความสัมพันธ์กับสถาบัน อย่างไรก็ตามสถาบันอาจเก็บข้อมูลส่วนบุคคลบางส่วนต่อไปภายหลังจากสิ้นสุดระยะเวลาดังกล่าว เพื่อใช้ตามวัตถุประสงคที่ได้แจ้งไว้
7.หน่วยงานต่างประเทศที่สถาบันส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลที่เก็บรวมรวมไว้ไปให้ไม่มี
หัวข้อรายละเอียด
1. ข้อมูลส่วนบุคคลที่สถาบันเก็บรวบรวมและใช้ภาพนิ่ง / ภาพเคลื่อนไหว / เสียง / ภาพทรัพย์สินของท่าน เช่น พาหนะ กระเป๋า หมวก เครื่องแต่งกาย เป็นต้น
2. ข้อมูลส่วนบุคคลอ่อนไหวที่สถาบันเก็บรวบรวมและใช้ไม่มีการจัดเก็บ
3.เหตุผลที่สถาบันจำเป็นต้องเก็บรวบรวมหรือใช้ข้อมูลส่วนบุคคลชุดนี้
  •    เพื่อการปกป้องสุขภาพและความปลอดภัยส่วนตัวของท่าน ซึ่งรวมไปถึงทรัพย์สินของท่าน
  •    เพื่อการปกป้องอาคาร สิ่งอำนวยความสะดวกและทรัพย์สินของเราจากความเสียหาย การขัดขวาง การทำลายซึ่งทรัพย์สินหรืออาชญากรรมอื่น
  •    เพื่อสนับสนุนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการบังคับใช้กฎหมายเพื่อการยับยั้ง ป้องกัน สืบค้น และ ดำเนินคดีทางกฎหมาย
  •    เพื่อการให้ความช่วยเหลือในกระบวนการระงับข้อพิพาทซึ่งเกิดขึ้นในระหว่างที่มีกระบวนการทางวินัยหรือกระบวนการร้องทุกข์
  •    เพื่อการให้ความช่วยเหลือในกระบวนการสอบสวน หรือ กระบวนการเกี่ยวกับการส่งเรื่องร้องเรียน
4.เหตุผลที่สถาบันได้รับการอนุญาตให้เก็บรวบรวมหรือใช้ข้อมูลส่วนบุคคลชุดนี้เป็นการจำเป็นเพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของสถาบันหรือบุคคลอื่น โดยประโยชน์ดังกล่าวมีความสำคัญไม่น้อยไปกว่าสิทธิขั้นพื้นฐานในข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ซึ่งเป็นไปตาม มาตรา 24 (5) แห่งพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562
5.หน่วยงานที่สถาบันอาจแบ่งปันหรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลที่เก็บรวบรวมไว้
  •    หน่วยงานที่มีอำนาจหน้าที่ตามที่กฎหมายกำหนด เพื่อช่วยเหลือ สนับสนุนในการบังคับใช้กฎหมาย หรือเพื่อการดำเนินการสืบสวน สอบสวน หรือการดำเนินคดีความต่าง ๆ
  •    ผู้ให้บริการซึ่งเป็นบุคคลภายนอก เพื่อความจำเป็นในการสร้างความมั่นใจในเรื่องการป้องกันหรือระงับอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย สุขภาพ รวมทั้งทรัพย์สินของท่านหรือบุคคลอื่น
6.ระยะเวลาในการจัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคลนี้จะถูกจัดเก็บเป็นระยะเวลา 60 วัน นับจากวันที่มีการบันทึกข้อมูล
7.หน่วยงานต่างประเทศที่สถาบันส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลที่เก็บรวมรวมไว้ไปให้ไม่มี